๑) แคว้นทวารวดีบทที่ 18
๑) แคว้นทวารวดี
๑) แคว้นทวารวดี
หลวงจีน
เหี้ยน-จาง หรือเหยียน-จางหรืองซวน-ท้ง หรือพระถังซำจั๋ง
เดินทางไปแสวงบุญยังอินเดียทางบกในพุทธศตวรรษที่๑๒
และหลวงจีนอี้จิงซึ่งเดินทางไปอินเดียทางทะเลในพุทธศตวรรษที่๑๓ตรงกับสมัย
ราชวงศ์ถัง[15]
นักบวชทั้งสองรูปกล่าวถึงบ้านเมืองต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนี้
“แคว้นลัง-ยะ-สิว
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นชิ-หลี-ตา-ซา-ล้อ
ทางทิศตะวันออกของแคว้นลัง-ยะ-สิว คือแคว้นโต-โล-โป-ตี(To-lo-po-ti)
หรือชิ-โห-โป-ตี[16] หรือโฉ-โห-โป-ตี [17]
ทางทิศตะวันออกของแคว้นโต-โล-โป-ตี คือแคว้นอี-ซี-นา-โป-โล
และแคว้นมอ-โห-เจียม-โปหรือหลิน-ยี่”[18]
แคว้นชิ-หลี-ตา-ซา-ล้อ คือ แคว้นศรีเกษตร ตั้งอยู่ในประเทศพม่า
แคว้นอี-ซี-นา-โป-โล คือ แคว้นอีสานปุระ แคว้นมอ-โห-เจียม-โป คือ
แคว้นจามปาในประเทศเวียดนาม ส่วนแคว้นโต-โล-โป-ตี หรือชิ-โห-โป-ตี
หรือโฉ-โห-โป-ตี มีหลักฐานชัดเจนว่า คือ แคว้นทวารวดี
ตั้งอยู่ในดินแดนภาคกลางของประเทศไทย
นักวิชาการมีข้อคิดเห็นแตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับที่ตั้งของแคว้นทวารวดี
วินัย พงศ์ศรีเพียร
เห็นว่าแคว้นทวารวดีมีศูนย์กลางอยู่ที่ภูมิภาคตะวันตกของดินแดนประเทศไทย
น่าจะหมายถึงเมืองนครชัยศรีหรือเมืองนครปฐมโบราณ
ส่วนเมืองลวปุระในจารึกสมัยทวารวดี
น่าจะเป็นเมืองลโวทยปุระซึ่งถูกอิทธิพลทางการเมืองของกัมพูชาแผ่เข้ามาครอบ
ครองในพุทธศตวรรษที่๑๖
หลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นร่องรอยของวัฒนธรรมสมัยทวารวดีซึ่งแพร่กระจาย
ทั่วไปในดินแดนประเทศไทยระหว่างพุทธศตวรรษที่๑๒–๑๖ ทั้งในภาคกลาง ภาคเหนือ
ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้
ลักษณะร่วมทางวัฒนธรรมสมัยทวารวดีคือ
มีร่องรอยการตั้งถิ่นฐานชุมชนแบบคูน้ำคันดินล้อมรอบแบบวงกลมหรือวงรีหรือแบบ
สี่เหลี่ยมมุมมนล้อมรอบ เมืองโบราณสมัยทวารวดี ได้แก่ เมืองนครชัยศรี
เมืองอู่ทอง เมืองคูบัว(ราชบุรี) เมืองคูเมือง(สิงห์บุรี)
เมืองฟ้าแดดสงยาง(กาฬสินธุ์) ฯลฯ
ความเชื่อทางศาสนาที่แพร่หลายในแคว้นทวารวดีคือพุทธศาสนานิการเถรวาท
“หลักฐานสำคัญที่พบ คือ จารึกคาถา “เยธัมมา เหตุปัปภวา”
อันเป็นหัวใจของพุทธศาสนาซึ่งปรากฏเฉพาะในคัมภีร์ของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท
เท่านั้น คาถาเยธัมมนาถูกจารึกในที่ต่างๆ อาทิ
บนธรรมจักรศิลาและแผ่นอิฐ[19] เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น